บทความการพัฒนาตนเองที่สะท้อนบางสิ่ง หากได้ทบทวนแล้วคนเรามีความอยากสำเร็จในหลายเรื่อง หลายสิ่ง ทั้งที่บางทีเราอาจเคยเห็นว่ามาว่าจะสำเร็จมันได้อย่างไร แต่ทำไม๊ เราไม่ทำ
อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวกับหัวข้อนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เข้าห้องสมุด ค้นหนังสือ นิตยสาร บทความ บทสัมภาษณ์ และบทความสารคดีทางอินเตอร์เน็ตรวมทั้งข่าว บล็อก และฐานข้อมูล กล่าวคือค้นคว้าหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทุกอย่างทั้งในรูปแบบหนังสือ (ตามห้องสมุดต่างๆ) และแบบออนไลน์
วิทยากร คอลัมนิสต์ นักเขียน นักคิด ที่ปรึกษา จากสายด้านธุรกิจ การตลาด สู่การจัดการบุคคลากร และว่าที่นักจิตวิทยาการปรึกษา
อีกตัวอย่างที่ใกล้ตัวมาหน่อย เช่น เรื่องงานเขียนที่มีบทความมากมาย ผู้เขียนบางคนแค่แปลมาจากบทความหรือหนังสือภาษาอังกฤษแล้วแปลงมาเป็นผลงานตัวเอง ซึ่งส่วนหนึ่งหากไม่ได้แค่แปลเฉย ๆ ก็ไม่ผิดอะไร เพราะหลายเรื่องผมก็เคยได้แรงบันดาลใจต่อยอดจากการได้อ่านมาเช่นกัน สิ่งที่น่าเสียดายคือผม “ไม่เก่ง” ภาษาอังกฤษมากนัก บทความผมส่วนใหญ่จึงมาจาก มุมคิด การสังเกต และเหตุการณ์จริงรอบตัว แต่นั่นมันก็ทำให้ผม “เขียนได้เองเรื่อย ๆ” มีบทความออกมามากมายจนทุกวันนี้ และยังคงมีต่อไป โดยไม่ต้องไปเสาะหารอจนกว่าจะเจอบทความถูกใจ หรือต้องกังวลจะถูกตำหนิว่าไม่ได้คิดเอง หรือห่วงว่ามันจะไปซ้ำคนอื่น(ที่แปลมาเหมือนกัน)
โลกที่หมุนไป เราต้องอยู่ได้บนแรงโน้มถ่วง
ความสำเร็จที่ใครก็อยากได้ แต่ในความสำเร็จนั้นมันวัดกันไม่ได้ เทียบกันไม่ได้ ว่าของใครเป็นแบบไหน แต่ในเรื่องนี้แสดงให้ดูว่าส่วนหนึ่งมันก็พอที่จะแบ่งเกรดกันได้อยู่นะ..
เราทุกคนล้วนเคยโง่มาก่อน อาจเป็นเรื่องหนึ่งเรื่องใด จะยอมรับหรือไม่ไม่สำคัญ เพราะจะรู้แก่ใจว่าเคยโง่ และความโง่ไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่โง่มันก็มีระดับนะ บทความ ถ้ามากไปไม่ดีแน่นอน
เพราะความเงียบ อาจถูกตีความเบื้องต้นว่าคือความสงบ ไม่เคลื่อนไหว ไร้พลัง กระทั่งภาวะจำยอม แต่ที่จริง “เงียบ” นี้ก็มีพลัง ลองดูกันว่าควรใช้มันอย่างไร
สาขาวิชาแอนิเมชั่นและสื่อสร้างสรรค์ (ไม่ส่ง)
ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารการศึกษาและผู้นำทางการศึกษา)
ติดตามอ่านได้ในบทความ “‘ต้นทุนของความทะเยอทะยาน’ เพราะกว่าชีวิตจะถึงฝั่ง อาจต้องทิ้งบางสิ่งไว้กลางทาง” ที่ >>
ใช้ลีลา โครสร้าง และน้ำเสียงที่เหมาะสม. เราต้องเขียนด้วยลีลา โครงสร้าง และน้ำเสียงที่เหมาะกับประเภทของบทความที่กำลังเขียน ประเมินผู้อ่านเพื่อจะได้รู้ว่าควรเลือกวิธีนำเสนอข้อมูลแบบไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด ตัวอย่างเช่น บทความหนังสือพิมพ์จะต้องให้ข้อมูลแบบเล่าเรื่องตามลำดับเหตุการณ์ จึงควรใช้ภาษาที่ตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย บทความวิชาการต้องใช้ภาษาที่เป็นทางการมากขึ้น บทความสาธิตวิธีการอาจเขียนโดยใช้ภาษาแบบเป็นกันเอง
ครรภ์เป็นพิษ: พิศวงถึงตายที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบไม่ได้
เติมน้ำที่เกินครึ่งแก้ว (ต้นทุนเวลา)